วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Who are you ?

Who are you ?



สวัสดีครับวันนี้เรามาทำความรู้จักกับนักกีฬาท่านหนึ่งกันดีกว่า ด้วยกีฬายิงปืนที่กำลังเป็นที่นิยมและแพร่หลายอย่างมากในประเทศไทย ซึ่งตอนนี้มีการจัดการแข่งขันทั่วทุกภาคในประเทศไทย รวมไปถึงระดับชาติเลยหล่ะครับ

เราไปทำความรู้จักกับ คุณ นนทพัทธ์  นัทธวงศกร หรือมีชื่อเล่นว่า คุณอั้ม กันเลยดีกว่าครับ ด้วยการที่เริ่มเล่นกีฬายิงปืนตั้งแต่ อายุ 6 ขวบ โดยไม่ได้ตั้งใจที่จะเล่นจริงจังแต่เขากลับกลายมาเป็นนักกีฬา อันดับ 1 ของภาคใต้ คงจะสงสัยกันใช่ไหมครับว่า เรื่องราวมันเป็นมาอย่างไร เราไปติดตามจากบทสัมภาษณ์กันเลยดีกว่าครับ




 นายนนทพัทธ์ นัทธวงศกร


บทสัมภาษณ์

ผู้สัมภาษณ์ : เริ่มเล่นกีฬาตั้งแต่ตอนไหนครับ

คุณอั้ม : เริ่มเล่นตั้งแต่อายุประมาณ 6 ขวบครับ

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วสาเหตุที่เริ่มเล่นและสนใจกีฬายิงปืนเป็นเพราะอะไรครับ

คุณอั้ม : เพราะคุณพ่อพาไปหัดยิงปืนตั้งแต่เด็กที่สนามครับ

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วตัวคุณอั้มเองมีความสนใจกีฬาชนิดนี้ตั้งแต่เด็กเลยรึเปล่าครับ

คุณอั้ม : ไม่เลยครับ ที่เข้ามาเล่นกีฬายิงปืนก็เพราะคุณพ่อครับ ส่วนมากคุณพ่อจะเป็นคนสนับสนุนให้เล่นกีฬายิงปืน อย่างเต็มที่ครับ เป็นทั้งเพื่อนคอยฝึกซ้อม เป็นโค้ช และเป็นทั้งคุณพ่อในเวลาเดียวกันเลยครับ

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วตัวคุณอั้ม มีการเตรียมตัวก่อนไปซ้อม มากน้อยแค่ไหนครับ ซ้อมหนักหรือเปล่าแล้วมีการแบ่งเวลาอย่างไรครับ

คุณอั้ม : ไม่เลยครับแทบจะไม่ได้ซ้อมเลย ถือว่าผมเป็นคนโชคดีคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์ ด้านนี้มาตั้งแต่เด็กครับ โดยส่วนใหญ่จะไปซ้อมอาทิตย์ละ  2 ครั้ง ในวันหยุดสุดสัปดาห์ หากมีการแข่งขัน ก็จะซ้อมก่อนวันแข่งแค่ สองถึงสามวันเท่านั้นเองครับ

ผู้สัมภาษณ์ : โอ้โห นี่ขนาดไม่ได้ฝึกซ่อมหนักอะไรเลยแต่ เก่งถึงขนาดนี้ ถ้าหากได้ซ้อมหนักกว่านี้ผมเชื่อว่าคุณอั้มจะต้อง ไปได้ถึงระดับโลกแน่นอนเลยใช่ไหมครับ

คุณอั้ม : ผมก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอกครับ โดยส่วนตัวแล้ว ผมเล่นเป็น กีฬาเพื่อสุขภาพมากกว่าครับ เลยไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้น ส่วนรางวัลที่ได้มาก็ถือเป็นผลกำไรจากการเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพครับ

ผู้สัมภาษณ์ : แล้วตัวคุณอั้มเองเคยได้ไปแข่งกีฬาในรายการไหนบ้างครับ แล้วได้รางวัลทุกสนามเลยรึเปล่าครับ ?

คุณอั้ม : เคยไปแข่งตั้งแต่รายการระดับจังหวัด ไประดับภาคจนถึงระดับประเทศเลยครับ ส่วนมากทุกรายการที่ไปก็จะได้รับเหรียญ ทุกสนาม ในกีฬายิงปืนประเภท ปืนสั้น นะครับ

ผู้สัมภาษณ์ : โหนั่นถือว่าเยอะมากเลยนะครับสำหรับคนที่เล่นกีฬาเพื่อสุขภาพ แล้วการแข่งขันกีฬายิงปืนนี่มันกี่ประเภท ครับคุณอั้ม

คุณอั้ม : ก็จะมีทั้งหมด 2 ประเภทครับ หลักๆ คือการแข่ง ปืนสั้น และปืนยาว โดยจะแบ่งย่อยออกไปอีกเป็นตามขนาดกระสุน ว่ามีขนาด กี่ มม. ครับผม

ผู้สัมภาษณ์ : ครับ ในวันนี้ต้องขอขอบคุณ คุณอั้มมากนะครับที่ยอมสละเวลามาให้สัมภาษณ์เพื่อให้เราได้ทำความรู้จักกับกีฬายิงปืนมากยิ่งขึ้น และขอให้คุณอั้มทิ้งท้ายข้อความเพื่อให้กำลังใจผู้ที่สนใจและกำลังฝึกซ้อมกีฬายิงปืนด้วยครับ

คุณอั้ม : ก็ขอให้น้องๆ เพื่อนๆ และบุคคลที่กำลังสนใจในกีฬายิงปืน หรือกำลังฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวแข่งขันนะครับ ให้ฝึกซ้อมให้มากๆ หากเราแพ้นั่นก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ หากเราชนะนั่นก็เป็นผลพลอยได้ ผมอยากให้คิดว่า เล่นกีฬาเพื่อดูแลสุขภาพ ดีกว่าไปคิดเกี่ยวกับผลแพ้ชนะ ได้หรือไม่ได้รางวัลครับ เพราะกีฬานั้นมี แพ้ ชนะ เป็นเรื่องปกติครับ :)


เป็นยังไงกันบ้างหล่ะครับ สำหรับบทสัมภาษณ์ กีฬายิงปืนก็เป็นกีฬาที่น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ หากมีโอกาศ ผมก็อยากไปลองเล่นดูซักครั้งหนึ่งเหมือนกันครับ แต่คงไม่เก่งเท่าคุณอั้ม ยังไงท่านผู้อ่านที่สนใจก็อย่าลืมไปสืบค้นหาข้อมูล เกี่ยวกับกีฬายิงปืนก่อนที่จะไปเล่นด้วยนะครับ เพราะ อุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นกีฬาชนิดนี้ มีความอันตรายสูงหากพลาดพลั้ง ขึ้นมาอาจถึงแก่ชีวิตเลยนะครับ

วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Remember me

Remember me

อ่านความทรงจำ


วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับหนังสือ "ความทรงจำบางอย่างช่างรางเลือน" ผู้ประพันธ์ รัชศักดิ์ จิรวัฒน์ ของสนพ.มติชน ที่ได้คว้ารางวัลร่วมเรื่องสั้นดีเด่น จาก สพฐ. ซึ่งสาเหตุที่หนังสือเล่นนี้ได้รับรางวัลเพราะ การเขียนหนังของเขามุ่งเน้นไปทางด้านความคิดแง่บวก จะทำอย่างไรเราจะทำความคิดแง่ลบให้หมดไปได้ นี่จึงเป็นแรงบัลดาลใจให้กับผู้อ่านได้เป็นอย่างมาก เขาจึงสมควรได้รับรางวัล หนังสือรวมเรื่องสั้นดีเด่น




ตัวอย่างรูปภาพหน้าปก


เรามาเข้าสู่ตัวเนื้อหาในหนังสือกันดีกว่าครับ ในตัวหนังสือเล่นนี้นั้นเป็นไปด้วยการตั้งคำถามว่า "ความทรงจำ" ที่มันผ่านมาแล้วควรจะปล่อยให้มันผ่านพ้นไปจริงๆ จะดีแล้วหรือ และหากว่าเราปล่อยมันผ่านไปเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ซึ่งในหนังสือมีการนำตัวลรครต่างๆในเรื่องสั้นมาจำลองสถานการณ์ให้เกิดขึ้นตามจุดประสงค์ของผู้เขียน เพื่อให้ผู้อ่านได้คิดตาม





รัชศักดิ์ จิรวัฒน์


“ความทรงจำบางอย่างช่างรางเลือน” หนังสือเล่มนี้ ก็เป็นเรื่องที่กล่าวถึงความทรงจำของชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีต่อพ่อ ซึ่งเข้าได้ค้นพบว่าตนมี น้องสาว และ น้องสาวของเขามีสัมผัสพิเศษที่สามารถติดต่อกับพ่อที่ได้เสียชีวิตไปแล้วได้ จึงเป็นความหวังให้เค้านั้นสามารถที่จะรู้สาเหตุการณ์ตายของพ่อ

ซึ่งเรื่องสั้นทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องที่ผู้แต่งเขียนไม่ได้เน้น "เรื่องเหนือจริง" เพราะสิ่งที่เหนือจริงที่สุดคือ "จิตใจ" อย่างไรก็ตามหนังสือเล่มนี้นอกจากไว้อ่านเพื่อความบันเทิงแล้ว ยังได้ข้อคิดที่ผู้เขียนจะสื่อถึงคือ การที่เราจะทำอย่างไรให้ "ด้านลบ" หมดไปจากสังคม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.facebook.com/notes/matichonbook/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%B3-%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%9C%E0%B8%B9/676580752401484?stream_ref=10



วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

คำเดียว "เปลี่ยน" โลก

คำเดียว "เปลี่ยน" โลก

บทบาทหน้าที่ของ "หนังสือพิมพ์" มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อสังคมภายในประเทศไทย และทั่วโลก แค่เพียง พาดหัวข่าวที่หนังสือพิมพ์เขียนขึ้นก็สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงจากผิดเป็นถูกได้โดยง่าย เพราะ คนในสังคมไม่ได้เจอเหตุการณ์ที่หนังสือพิมพ์ตีพิมพ์ออกมาด้วยตัวเอง ทำให้รับรู้เรื่องต่างๆจากหนังสือพิมพ์โดยตรง แค่เพียงทางเดียว และบางครั้งหนังสือพิมพ์ก็สามารถทำลายชื่อเสียง ของสถานที่ และบุคคลที่มีชื่อเสียง หรือการโฆษณาชวนเชื่อ ยั่วยุคนในสังคม ได้ง่าย ๆ เพียงแค่พาดหัวข่าวโจมตี เขียนข่าวให้ร้าย ชักชวนให้คนมาใช้สินค้าตัวในตัวหนึ่ง ก็ไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่าเป็นเรื่องจริง หรือหลอก ดังนั้น เราจึงต้องเลือกที่จะไม่ฟังความข้างเดียว รู้จักสืบหาความจริงหลายๆทาง หากมันเป็นเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเราโดยตรง เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง และการเข้าใจผิดจากผู้คนในสังคม จากที่กล่าวมาข้างต้น นั่นจะเป็นการทำให้เรารู้เท่าทันสื่อสิ่งพิมพ์ที่ใช้สำหรับ แพร่กระจายข่าวสาร ไม่ตกเป็นเหยื่อของ "สื่อสิ่งพิมพ์"

เหตุการณ์ตัวอย่าง


ภาพตัวอย่าง


ASTVผู้จัดการ - หนังสือพิมพ์เมโทรของแคนาดา ปล่อยไก่ครั้งใหญ่ พาดหัวข่าวรัฐประหารในไทยผิดพลาดเป็นรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลไต้หวัน
       
       วันนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังประเทศไทยเกิดเหตุรัฐประหารยึดอำนาจโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกและคณะ ในนาม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในช่วงเย็นวันที่ 22 พ.ค. 2557 หนังสือพิมพ์รายวันเมโทร (metronews.ca) ในเมืองแวนคูเวอร์ฉบับวีคเอนด์ ประจำวันที่ 23-25 พ.ค. ได้รายงานข่าวเกี่ยวกับการรัฐประหารในประเทศไทยในหน้าที่ 12
       
       รายงานชิ้นดังกล่าวของหนังสือพิมพ์เมโทร พาดหัวระบุว่า รัฐบาลในไต้หวันถูกโค่น หลังทหารทำรัฐประหารที่ไม่เสียเลือดเนื้อ (Government overthrown in Taiwan as military stages bloodless coup) ซึ่งผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เพราะระบุว่าเกิดรัฐประหารในไต้หวัน แทนที่จะเป็นประเทศไทย แต่เนื้อข่าวที่อ้างอิงมาจากสำนักข่าวเอพีนั้นถูกต้องแล้ว
       
       ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์แคนาดาก็รายงานถึงปฏิกิริยาของรัฐมนตรีต่างประเทศของแคนาดา นายจอห์น แบร์ด ว่า แคนาดาหวังทหารไทยจะคืนประเทศให้กับรัฐบาลพลเรือนโดยเร็ว ส่วนพลเมืองแคนาดาที่เดินทางไปยังประเทศไทยได้รับคำแนะนำว่าควรจะลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ของแคนาดาเพื่อจะได้แจ้งเตือนข่าวล่าสุดได้
       
       ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์สามารถอ่านออนไลน์ในรูปแบบ PDF ได้ตามลิงก์ต่อไปนี้ http://reader.metronews.ca/digital_launch.aspx?id=3744758e-2ee5-4c13-a052-56711bdbdc91


ผลกระทบที่ตามมา

ทำให้คนในประเทศที่อ่านข่าวของหนังสือพิมพ์ได้รับข่าวสารที่ผิดๆ และอาจส่งผลต่อเนื่องให้เกิดเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้น ในระดับประเทศ

การแก้ไข

- สื่อควรจะมีแหล่งที่มาของข่าวสารให้ชัดเจน
- สื่อควรจะตรวจสอบความถูกต้องก่อนจะตีพิมพ์หนังสือพิมพ์

สรุป

จากเหตุการณ์ที่ยกตัวอย่างไป ก็จะเห็นได้ชัดเจนแล้วใช่ไหมครับว่า แค่คำๆเดียวของหนังสือพิมพ์ก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาได้ระดับประเทศเลยทีเดียวครับ ดังนั้น เสพสื่อด้วยความระมัดระวัง รู้เท่าทันสถานการณ์ แล้วเราจะเป็นคนที่รู้ทันคน รู้ทันสังคมโลกครับ